รมว.อุตสาหกรรมลงพื้นที่เปิดศูนย์ส่งเสริมอุตสหากรรมภาคที่ 6 กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

506

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2561 กระทรวงอุตสาหกรรม จัดกิจกรรม SME สัญจร ครั้งที่ 3  จ.นครราชสีมา  ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กรอบการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศให้มีความเข้มแข็ง สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนพื้นฐานความได้เปรียบเชิงวัฒนธรรมตามยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศสู่ Thailand 4.0 ก้าวสู่ฮับอุตสาหกรรม

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center :ITC) ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พร้อมเยี่ยมชมความพร้อมของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ประจำภูมิภาคที่ 6 และโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปขนมอบกรอบข้าวหอมมะลิ ตรา ตัง ตัง ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบของผู้ประกอบการ SMEsไทย ซึ่งมีนายสุทธิสินธุ์ อัครพลโชติ ประธานสมาพันธ์SMEs จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรมว.อุตสาหกรรม นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรมว.อุตสาหกรรม นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ

นายวิเชียร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า   จังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ที่รวมตัวพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอีสานตอนใต้ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ มีความยินดีที่ ดร.อุตตม รมว.อุตสาหกรรม มาเป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ประจำภูมิภาคที่ 6 ในครั้งนี้

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า จากต้นแบบหรือโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ “ไทยแลนด์ 4.0”การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ Value-Based Economy  หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” โดยมีฐานคิดหลัก คือ เปลี่ยนจากการผลิตสินค้า “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้าเชิง “นวัตกรรม” เปลี่ยนจากการผลิตสินค้า นวัตกรรม และเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้าไปสู่การเป็นภาคบริการมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดในการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0” ซึ่งเป็นกลไกประชารัฐ ที่ผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการวิจัยพัฒนา และบุคลากร ในการเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจเชิงนวัตกรรมและสร้างสรรค์ โดยศูนย์ ITC(ไอทีซี) เปรียบเสมือนกับข้อต่อกลางที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถปฏิรูปธุรกิจของตนเอง ผ่านกระบวนการ SME Transformation ตามแพลทฟอร์มต่างๆที่เหมาะสม

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า หากพิจารณาถึงศักยภาพของกลุ่มจ.นครชัยบุรินทร์ ในด้านการเกษตร การแปรรูปเกษตร และการแปรรูปอาหาร ตลอดจนโรงงานอุตสาหกรรม และเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพในพื้นที่ที่พร้อมต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เนื่องจากปัจจุบันพบว่า ภาคอุตสาหกรรมยังขาดการพัฒนาต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ขาดเครื่องมือ เทคโนโลยี และเครื่องจักรที่เหมาะสม สำหรับใช้ในการทดสอบ ทดลอง  เพื่อสร้างสรรค์สินค้าหรือนวัตกรรมใหม่ๆ  ในอนาคตคาดว่า แนวโน้มการลงทุนภาคอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตและเพิ่มขึ้น  เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ตามรัฐบาลได้มีนโยบายจะส่งเสริมและสนับสนุน เอสเอ็มอี และผู้ประกอบการทั่วประเทศ จะส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่กลุ่มจังหวัดชัยบุรินทร์ ดีขึ้นอย่างแน่นอน

การจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือ ไอทีซี ประจำภูมิภาคที่ 6 อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา  เป็นการกระตุ้นผู้ประกอบการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1  ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี เตรียมพร้อมไปสู่โลกธุรกิจยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการบริการของหน่วยงานต่างๆ แก่ เอสเอ็มอี อย่างครบวงจร และเป็นการเสริมศักยภาพสร้างรายได้ให้กับประเทศ และยังมีความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืนอีกด้วย

ด้านดร.อุตตม รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม จุดเด่นคือมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศมีศูนย์ภาค 13 แห่งมีสำนักงานอยู่ครบทั้ง 76 จังหวัดและมีการพัฒนาต่อยอดกันมาเรื่อยๆ พอมาถึงวันนี้เป็นจังหวะเวลาที่เราจะเพิ่มและยกบทบาทเครือข่ายและสำนักงานให้เด่นมากยิ่งขึ้น เรามีโอกาสที่ปรับเปลี่ยนและปฏิรูปประเทศด้วยกัน เพราะหลายอย่างในโลกใบนี้เปลี่ยนไปโดยสัมผัสได้จากเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาจำนวนมาก และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกขนาดสามารถใช้เทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดได้ ประเทศไทยตั้งอยู่กลางภูมิภาคเอเชียและเอเชียเริ่มกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญของโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ภูมิภาคอื่นๆเริ่มซวนเซ ขณะที่ประเทศไทยและเอเชียกำลังเด่นขึ้นมา

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดอยู่เสมอว่าเรามาปรับเปลี่ยนปฎิรูปประเทศกันเพื่อให้ประเทศเราสามารถโตได้อย่างยั่งยืนครอบคลุมทุกพื้นที่ แบบโตไม่กระจุกแต่กระจาย หัวใจสำคัญเรื่องนี้ ต้องปรับในแนวสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ซึ่งหมายถึง ความเข้มแข็งในระดับพื้นที่ทั่วประเทศไทย เราโตมาแบบอุตสาหกรรมบริษัทใหญ่เป็นกลุ่ม ในอดีตนั่นเป็นแนวทางเติบโต แต่วันนี้ต้องสร้างเศรษฐกิจให้สมดุลย์ด้วยการโตและการมีพลัง วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจใหม่ ในพื้นที่ต้องสร้างขึ้นมาให้มากขึ้น เราถึงจะได้เศรษฐกิจที่สมดุลและมีพลังงาน เวลาที่มีผลกระทบจากนอกประเทศเราก็รับมือได้

“วันนี้เราเข้มแข็งแต่อนาคตเราต้องเข้มแข็งมากกว่านี้จากระดับชุมชนพื้นที่ขึ้นมา นี่คือที่มาว่าจะเข้าถึงระดับชุมชน พื้นที่ในเรื่องของการร่วมกันสร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆร่วมกันสร้างอาชีพใหม่ๆของกระทรวงอุตสาหกรรม ผมมุ่งหวังให้เครือข่าย สำนักงานของเราในพื้นที่ เริ่มจากระดับภาค ลงไปถึงระดับจังหวัด ปรับบทบาทงานประจำปีก็ต้องทำต่อ แต่วันนี้จะให้เป็นนักพัฒนาจริงๆ นักพัฒนาในทิศทางที่ไปด้วยกัน วันนี้เรามียุทธศาสตร์ฯอยู่แล้ว แต่เราต้องปรับอุตสาหกรรมเพื่อสร้างมูลค่า ต้องการปรับอุตสาหกรรมเดิมที่เป็นจุดแข็ง คือ เรื่องของการเกษตร ที่ประเทศไทยหนีไม่พ้น ต้องปรับผลผลิตทางด้านการเกษตรให้มีมูลค่าให้สูงขึ้น ของใหม่ๆที่ขายได้ในโลกนี้ เกษตรกรตั้งแต่ต้นทางก็จะได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วยไม่ใช่ตกอยู่เฉพาะคนกลาง”นายอุตตม กล่าวว่า

นายอุตตม กล่าวต่ออีกว่า ส่วนอุตสาหกรรมใหม่ๆ เรื่องเกษตรก็ต้องต่อยอด ประเทศไทยมีศักยภาพไม่ไกลตัวเลย เราต้องสร้างขึ้นมาจากฐานในระดับพื้นที่ ชุมชนขึ้นมา ถ้าจะทำเช่นนี้เราต้องปรับเปลี่ยนกลไกของเรา เริ่มจากการลงพื้นที่ที่ผ่านๆมา ตั้งแต่มาอยู่เป็น รมว.อุตสาหกรรม อย่างหนึ่งที่รับโจทย์จากรัฐบาลมาว่า “จะทำการปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 กลไกที่ใช้ คือ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค และลงไปถึงสำนักงานภาค จะดึงกลับมาใช้ให้เป็นหัวหอกเลย”ปีที่แล้วเชิญประชุมหารือทั่วประเทศบอกโจทย์ไปว่าจะทำ มาวันนี้ก็สามารถขับเคลื่อนไปได้พอสมควร 13 สำนักงานส่งเสริมระดับภาค วันนี้แปลงรูปกว่า ครึ่งเรียบร้อยแล้ว ส่วนการแปรรูปนั้น ต้องตอบโจทย์การช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการระดับชุมชน คนตัวเล็ก คนตัวกลาง ของเอสเอ็มอี ต้องปรับตัวและมีเครื่องมือใหม่ นี่คือที่มาการ่วมกันให้กำลังใจศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค6 ซึ่งจากที่เยี่ยมชมบูธมีเครื่องมือใหม่ๆ ภายใต้แนวความคิด ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือ ไอทีซี มีภารกิจหลัก คือ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการโตอย่างต่อยอดไม่ใช่โตไปเรื่อยๆ ที่โตไปเรื่อยๆคืองานประจำ งานบริการก็ต้องทำให้ดีเป็นศูนย์ร่วมของการให้บริการ และผมมอบภารกิจให้ใหม่ โดยวัดผลผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงไป จะวัดใหม่หมด เรื่องของเครือข่ายอุตสาหกรรมในพื้นที่ผมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ศูนย์วันนี้มีพื้นที่เหมือนกับเป็นโรงงานต้นแบบให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามาใช้

หากต้องการเข้ามาใช้บริการโรงงานต้นแบบเครื่องมือสมัยใหม่เรามากันพร้อม จากวันนี้เป็นต้นไปในส่วนของสำนักงานเอง กรมที่เกี่ยวข้อง สถาบันในเครือข่าย เช่น สถาบันอาหาร ศูนย์ออกแบบต้องแท็กกันมา ตนจะไม่ให้ต่างคนต่างทำเหมือนเมื่อก่อน แต่ต้องแท็กกันมาภายใต้โจทย์เดียวกัน นั่นหมายถึง บุคลากรของศูนย์ก็ต้องรับโจทย์นี้ไปและเร่งสร้างสมรรถภาพของตัวเองด้วย เริ่มจากทัศนคติก่อน หากทำงานอย่างนี้ต้องเปลี่ยนเป็นนักพัฒนาอย่างเต็มตัว ต่อไปเจ้าหน้าที่จะไม่อยู่เฉพาะในศูนย์เท่านั้นแต่ต้องออกไปลงพื้นที่ไปคุยกับผู้ว่าราชการ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมดูว่าโครงการใหญ่ในพื้นที่อยากทำอะไร จุดเด่นในพื้นที่มีอะไร ซึ่งในกลุ่มจังหวัดของนครชัยบุรินทร์มีความเด่นเรื่องเกษตรแปรรูปและมีอื่นๆจับเป็นเรื่องๆ ทำโครงการที่มีผลในวงกว้าง  งานประจำทำไปแต่งานใหม่ๆต้องทำให้ดีมากๆ

นายอุตตม กล่าวทิ้งท้ายว่า เราทำงานด้วยกันต้องเอาองค์กรพื้นที่เป็นตัวตั้ง นอกจากนั้นต้องเชิญภาคการศึกษาเข้ามามากๆ เพราะนี่คือขุมพลังของประเทศ มหาวิทยาลัย, เครือข่ายมหาวิทยาลัยในพื้นที่  ซึ่งมีจุดแข็งอยู่แล้ว เพียงเข้ามาเสิรมเกื้อกูลกันมากที่สุด เริ่มจากงานวิจัย องค์ความรู้ ภาคอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะรู้ว่าโจทย์อุตสาหกรรมของตัวเองคืออะไร ก็สามารถส่งโจทย์ต่อให้มหาวิทยาลัยได้ นักวิจัยก็จะทำงานออกมามีผลต่อคนในวงกว้าง ที่ผ่านมาจะอยู่แบบต่างกันต่างอยู่ เช่น ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา ผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาก่อนและทำงานวิจัยด้วย ซึ่งนี่มันไม่ใช่วัฒนธรรมของประเทศเราผมเข้าใจในการเชื่อมโยงกัน แต่วันนี้ถึงเวลาที่ต้องทำแล้วโดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมมีหน้าที่จะต้องสร้างความเชื่อมโยง นี่เป็นบทบาทใหม่ของเครือข่ายศูนย์ไอทีซี กระทรวงอุตสาหกรรมใน และลงไปสู่จังหวัดถือเป็นมินิไอทีซี งบประมาณในปึ62ตั้งเพิ่มขึ้นลงไปสู่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งศูนย์ใหญ่อยู่ที่กล้วยน้ำไท กทม. รวมทั้งยังเชิญคนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก หรือ Big Brother