สถาบันบริหารจัดการที่ดิน(บจธ.) เปิดตัว “ตลาดกลางที่ดิน”

592

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 ที่โรงแรม เดอะ สุโกศล กทม. พล.ท. ชาญชัย ภู่ทอง ประธานคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(บจธ.)  เป็นประธานเปิดการประชุมเสวนา หัวข้อ “ตลาดกลางที่ดิน ช่วยให้เกษตรกรมีที่ทำกินได้อย่างไร”ว่า จากภารกิจตามความในมาตรา 7 ของพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(องค์การมหาชน)พ.ศ. 2529 กำหนดให้สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินหรือ บจธ.มีภารกิจในการดำเนินการเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม เป็นตัวกลางระหว่างผู้ระสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดิน กับเจ้าของที่ดินที่ยังมิได้ใช้ ประโยชน์ หรือเจ้าของที่ดินที่ยังไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเต็มที่  บจธ.จึงได้ดำเนินโครงการ “ตลาดกลางที่ดินเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานระหว่างเจ้าของที่ดินและกลุ่มเกษตรกร และได้จัดเสวนา เพื่อระดมความคิดเห็น เพื่อปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานของ “ตลาดกลางที่ดิน”

พล.ท.ชาญชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 320.6 ล้านไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 149.2 ล้านไร่ และที่ดินของประเทศกว่าร้อยละ 70 ไม่ได้ถูกใข้ประโยชน์อย่างเต็มที่  ทำให้ประเทศชาติสูญเสียรายได้กว่า 1.27 แสนล้านบาทต่อปี ในขณะเดียวกัน เรามีเกษตรกร และผู้ไร้ที่ดินทำกินที่รอรับการจัดสรรทั้งสิ้น 8 แสนราย (ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศูนย์ดำรงธรรมและ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(สปก.))

บจธ. มีแนวคิด ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของที่ดินและเกษตรกรผู้ประสงค์ใช้ที่ดินและจะให้การสนับสนุน หรือให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับข้อตกลงในการใช้ประโยชน์ทีดิ่นในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ สัญญาเช่าซื้อ  เช่าหรือเช่าช่วง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่ายทั้งในเรื่องของราคาและเรื่องการใช้ประโยชน์ในที่ดิน

พล.ท.ชาญชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมในเรื่องของการตลาด การผลิต และเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่วนรูปแบบของการตลาดกลางที่ดินที่ บจธ.จะจัดทำเป็นเว็บไซต์เพื่อให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรที่ต้องการซื้อ หรือใช้ประโยชน์ที่ดิน และเจ้าของที่ดินมีความต้องการนำที่ดินออกมาใช้ประโยชน์ หรือต้องการขาย มาลงทะเบียนไว้ในเซ็บไซต์ของตลาดกลางที่ดิน โดยบจธ.จะช่วยเป็นตัวกลางในการจับคู่ทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับการให้บริการจะมี 4 รูปแบบ คือ 1.การเป็นตัวกลางในการใช้ประโยชน์ที่ดิน  2.การให้เช่าซื้อที่ดิน 3.การให้สินเชื่อเพื่อการเช่าที่ดิน และ4.เป็นต้งกลางในการเช่า หรือเช่าช่วง

พล.ท.ชาญชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลที่ได้จากการตั้งตลาดกลางที่ดินจะส่งเสริมให้มีการนำที่ดินออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ เกิดการพัฒนาในระบบเศรษฐกิจ เปิดโอกาสให้เกษตรกร ผู้ไร้ที่ดินทำกินสามารถเข้าถึงที่ดิน ใข้ประ.โยชน์จากที่ดินในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน

ด้านนายขจร เจียรธนากุล ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(บจธ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้บริการที่บจธ.จะช่วยเป็นตัวกลางในการจับคู่ทั้ง 2 ฝ่าย ใน 4 รูปแบบ ดังนี้ รูปแบบที่ 1 การเป็นตัวกลางในการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดย บจธ.จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ต้องการใช้ที่ดิน โดยบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และแนะนำการทำนิติกรรมรูปแบบต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม

รูปแบบที่ 2 การให้เช่าซื้อที่ดิน เมื่อเจ้าของที่ดินและผู้ต้องการใช้ที่ดินประสงค์จะดำเนินการในรูปแบบของการเช่าซื้อที่ดิน และมีคุณสมบัติผ่านตามเกณฑ์ที่ บจธ.กำหนด บจธ.จะซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ดินและนำมาให้ผู้ต้องการใช้ที่ดินเช่าซื้อ ซึ่งในระหว่างอายุสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจะต้องผ่านชำระค่าเช่าซื้อตามงวดที่ตกลงกัน โดยกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของ บจธ. และจะโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เช่าซื้อเมื่อมีการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อจนครบถ้วน

รูปแบบที่ 3 การให้สินเชื่อเพื่อการเช่าที่ดิน ในกรณีที่ บจธซทำหน้าที่ประสานให้เจ้าของที่ดินและผู้ต้องการใช้มี่ดินตกลงทำสัญญาเช่าที่ดินกัน โดยผู้เช่าที่ดินขอสนับสนุนสินเชื่อ จาก บจธ.เพื่อใช้ในการชำระค่าเช่าที่ดินตามสัญญา ซึ่งขะช่วยให้เจ้าของที่ดินได้รับชำระค่าเช่าอย่างแน่นอน ทั้งนี้ บจธ.จะประเมินความสามารถในการสนับสนุนสินเชื่อให้เป็นรายงวด

และรูปแบบที่ 4 การเป็นตัวกลางในการเช่า หรือเช่าช่วง บจธ.เช่าที่ดินจากเจ้าของที่ดินตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ และนำที่ดินแปลงดังกล่าวให้ผู้ต้องการใช้ที่ดินเช่าช่วง โดยเจ้าของที่ดินจะได้รับค่าเช่าตามาระยะเวลาที่ตกลงกันไว้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ บจธ.จะคิดค่าดำเนินงานโดยจัดเก็บจากผู้เช่าช่วง เป็นต้น