สปสช.ลงพื้นที่ดูรร.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลต.อิสาณ2 จ.บุรีรัมย์ ต้นแบบการพัฒนาการเรียนรู้เด็กเล็ก

1325

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการดำเนินงาน “ศูนย์ต้นแบบพัฒนาการเรียนรู้เด็กเล็กเทศบาลตำบลอิสาณ 2” ซึ่งเป็นพื้นที่ของเทศบาลตำบลอิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมี นายสุพจน์ สวัสดิ์พุทรา นากเทศมนตรีตำบลอิสาณ พร้อมคณะครูและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ นายสุพจน์ เล่าว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เทศบาลอิสาณรับผิดชอบมีจำนวน 2 แห่ง เดิมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลอิสาณ 2 ชื่อเดิมคือ  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโคกวัด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลอิสาณ2 ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2557 เป็นศูนย์ที่ถ่ายโอนมาจากสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ(สปช.) กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อปีพ.ศ. 2545  และได้อาศัยห้องเรียนในโรงเรียนบ้านโคกวัด เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 1 เป็นการชั่วคราว ซึ่งตั้งอยู่ ม. 1 บ้านโคกวัด ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  ประกอบกับโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 1 ไม่สามารถรองรับเด็กวัย 2-3 ปีที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นได้ทั้งหมด เป็นสาเหตุให้เกิดความเดือดร้อนต่อเด็กและผู้ปกครองอย่างมาก

นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ทำให้ตนเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงดำเนินการติดต่อขอใช้พื้นที่สาธารณะในการประชุมลูกบ้านในพื้นที่ของบ้านโคกหัวช้าง ม. 3 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 3 งาน 30 ตารางวา โดยขออนุญาตใช้ที่ดินจากราชพัสดุ และได้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างเอง 1 หลัง ต่อมาได้รับจัดสรรงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างอาคารแบบ ศพด.3 อีก 1 หลัง และทำการย้ายจากโรงเรียนบ้านโคกวัดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558

 

ปัจจุบันเทศบาลตำบลอิสาณได้จัดตั้งเป็น โรงเรียนอนุบาลขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพของโรงเรียอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดเทศบาลต.อิสาณให้เป็นโรงเรียนที่มีมาตรฐาน เพื่อสร้างนักเรียนให้เป็นต้นกล้าที่แข็งแรงได้มาตรฐานในทุกระดับชั้นและเป็นที่ยอมของสังคม ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมด 305 คน ครู 7 คน ผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก 8 คน  ครูดนตรีไทย 1 คน ครูพลศึกษา 4 คน ครูภาษาอังกฤษ 2 คน รวมครู 22 คน

นายสุพจน์ เล่าต่ออีกว่า การจัดการเรียนการสอนที่เน้นกิจกรรมนอกจากวิชาการ โดยทางจังหวัดก็เน้นด้านกีฬา เข้ามาส่งเสริมรองรับกันและเป็นนโยบายของจังหวัดด้วย  จึงเน้นการทำกิจกรรมเรื่องกีฬาที่มีความโดดเด่นมาก เช่นมีสนามลู่วงขนาดเล็ก  กิจกรรมกีฬามวยไทย  และอุปกรณ์การกีฬาสำหรับเด็ก ซึ่งกีฬาเป็นสิ่งดีในการทำให้เขามีระเบียบวินัย ได้ให้เด็กได้เรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 ทั้งการเกษตร และปศุสัตว์ที่ทำแบบย่อส่วนให้เด็กได้เห็นของจริงและเกิดการเรียนรู้จากของจริง นอกจากนี้ในปี 2561 ทางเทศบาลตำบลอิสาณยังได้รับรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2561 (ด้านการศึกษา :ศุนย์ต้นแบบส่งเสริมการเรียนรู้)จากพล.อ.ประยุกธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย

ด้าน นายประภาส คงเทียมศรี ผอ.กองการศึกษา เทศบาลตำบลอิสาณ กล่าวเสริมว่า กิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลอิสาณ 2 เราพัฒนาทั้งหมด 4 ด้าน ให้เหมาะสมตามวัย และรส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้จากธรรมชาติ สอนตามภาพจริงและเชื่อมโยงเนื้อหาเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการเรียนการสอนกิจกรรมกลางแจ้งการเล่านิทาน การเรียนรู้ร่วมกัน

ด้านน.ส.อาภัสรา วงศ์สัมพันธ์ชัย นักวิชาการสาธารณสุข กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลอิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  เล่าว่า เข้าร่วมกับสปสช.มาตั้งแต่ปี2549 ซึ่งมากกว่า 10 ปีที่เราเข้าร่วมโครงการกับสปสช.อีกทั้งทางเทศบาลมากกว่าเป็นนโยบายที่ดีมีการดูแลสุขภาพของประชาชน หลังจากนั้นเราร่วมกันมาโดยตลอด ในส่วนของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้นเป็นในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้งบประมาณมา50% และทางเทศบาลสมทบไปอีก 50% เพื่อมาดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ของตัวเองโดยทั้ง 2 หน่วยงานร่วมมือกันในการบริหาร

ในกลุ่มเป้าหมายสุขภาพของเรานั้นจะมีทั้งหมด 5 กลุ่มอายุ ได้แก่ หญิงวัยตั้งครรภ์ จนแรกคลอด  กลุ่มเด็ก กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มคนชรา ผู้สูงอายุ ซึ่งการทำงานของเราค่อนข้างดีเพราะอยู่ใกล้เขตบริการ ทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) หรือศูนย์อนามัยโคกหัวช้าง และเป็นเขตใกล้เมือง

น.ส.อาภัสรา  เล่าต่อว่า สิ่งที่ทางเทศบาลมีกลุ่มเป้าหมายมุ่งไปที่เด็ก เพราะว่า เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่อนาคต และถ้าได้รับการดูแลที่ดีจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตด้วย การที่ทางเทศบาลดูแลหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่แรกคลอด เมื่อคลอดออกมาแล้วเขาดูแลอย่างไร เมื่อเด็กเติบโตจนเริ่มเข้าเรียน บ้างครั้งผู้ปกครองไปทำงานและฝากลูกไว้อยู่กับย่า ยาย ทางเราก็ตระหนักว่าเราจะส่งเสริมเด็ก ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลในพื้นที่ของเราอย่างไร

จึงเข้ามาดูแลเรื่องของการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กขึ้น และการที่เราดำเนินการนั้นจริงแล้วเรามี 2 ศูนย์ด้วยกันเนื่องจากพื้นที่เราใหญ่ ด้านสุขภาพอนามัย เนื่องจากเรามีพื้นที่กว้างถึง 3 ไร่ ทำเป็นโรงเรียนกีฬาเพื่อพัฒนาการเติบโตของเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพกาย และสุขภาพใจ

น.ส.อาภัสรา เล่าอีกว่า นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลอิสาณยังได้รับรางวัลศูนย์เด็กปลอดโรค กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์เด็กสีเขียว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  และดูแลการจัดการธรรมชาติให้สวยงาม ปลอดภัย ปัญหาเรื่องของสุขภาพในศูนย์เด็กของเราจะมีตั้งแต่โรคมือเท้าปาก ซึ่งเด็กที่มาเรียนอยู่ต่างทิศต่างทาง เราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้นำโรคเข้ามาสู่โรงเรียน เราก็จะทั้งการล้างมือ เจลล้างมือกับเด็ก ส่วนพื้นที่ด้านข้างเป็นพื้นที่ให้ผู้ปกครองรอรับลูกกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก รวมทั้งมีการจัดศาลาและทำเป็นมุมบ้านรักการอ่านเพื่อให้ผู้ปกครองมารับลูกก็มีเวลาในการเรียนรู้ ส่วนเรื่องของสีสันสดใสต่างๆนั้น เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ให้กับเด็กมีพัฒนาการมากขึ้น โดยให้เห็นสิ่งเร้าและเกิดภาพจำในการเรียนรู้ เช่นทางเข้าเป็น ตัวอักษรภาษาอังกฤษบนทางเท้า ส่วนทางออกก็เป็นตัวอักษรภาษาไทย การรียนรู้แต่ละก้าวนั้นคือการเรียนรู้ โดยเริ่มตั้งแต่ก้าวแรกของเรา

“สปสช.จะเป็นส่วนที่จะมาเติมให้เต็ม โดยหลักเราจะมีงบสนับสนุนจัดสร้างอาคารสถานที่ต่างๆจากท้องถิ่นอยู่แล้ว ทางเทศบาลมาสมทบในเรื่องโครงสร้างทางกายภาพ แต่ในส่วนของสปสช.เข้ามาเติมเต็มหรือติดปีกให้เด็กในเรื่องของสุขอนามัย หรือทำให้เด็กมีสุขภาพที่ดี ดูสมาร์ทมากขึ้น ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมมากขึ้น จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแล”น.ส.อาภัสรา กล่าว