ไอทีดี(itd) เผยแนวโน้มการค้าชายแดนไทยสดใส ปีหน้าคาดโตได้ 4% เหตุมีปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านที่ยังเติบโตได้ดี ขณะที่ประชาชนนิยมใช้สินค้าไทยสูง แนะรัฐเร่งดันเอสเอ็มอีท้องถิ่นไทย ผลิตสินค้าคุณภาพส่งออกชายแดน-ข้ามแดน พร้อมลดอุปสรรคต่าง ๆ โดยเฉพาะกฎระเบียบด้านการค้า มั่นใจหากทำได้ ค้าชายแดนมีสิทธิ์โตเกิน 10%
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ที่โรงแรมโนโวเทล กทม.(สยามสแควร์) ดร.กมลินทร์ พินิจภูวดล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ไอทีดี พร้อมด้วย ดร.ณภัทร ชัยมงคล ผู้รับผิดชอบโครงการศูนย์ศึกษาวิเคราะห์แนวโน้มด้านการค้าและการพัฒนา ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ร่วมแถลง”แนวโน้มทิศทางการค้าชายแดนของประเทศไทย:โอกาสและแนวทางการพัฒนาสู่การเติบโตที่ยั่งยืน”
โดยดร.กมลินทร์ เปิดเผยว่า ภาวะการค้าชายแดนไทย ปีนี้มูลค่าการค้าชายแดนไทยมีมากกว่า 700,000 ล้านบาท หรือเติบโตได้กว่า 4% และเป็นการเติบโตที่ต่อเนื่องมาโดยตลอด จากปัจจัยบวกคือ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ทั้งมาเลเซีย สปป.ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา จึงทำให้ประชาชนในประเทศเหล่านั้น มีความต้องการใช้สินค้าไทยมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าเกษตรต่าง ๆ จึงเห็นว่า ภาวะการค้าของไทยจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวลง เนื่องจากมีสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับสาธารณรัฐประชาชนจีนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ไอทีดี คาดการณ์ว่า การค้าชายแดนของไทยในปี 62 นั้น น่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 4% จากความต้องการใช้สินค้าไทยที่มีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเติบโตได้กว่า 10% หากรัฐบาลเข้ามาสนับสนุนให้ประชาชน และผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในท้องถิ่นของไทย ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการของประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้นในทุกด้าน
ดร.กมลินทร์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญรัฐบาลจะต้องแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะการดำเนินการด้านเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องทำแบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกทางการค้าชายแดนให้มากขึ้น ไอทีดีเห็นสัญญาณเชิงบวกที่ชี้ให้เห็นโอกาสการเติบโตอย่างชัดเจน สะท้อนจากตัวเลขการค้าชายแดนไทยช่วงเดือนมกราคม – สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมกันกว่า 742,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 60 ที่ผ่านมา ทั้งการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย เมียนมาร์ สปป.ลาวและกัมพูชา ซึ่งสวนทางกับการส่งออกไทยโดยรวมที่หดตัวลงถึง 0.16% เมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าในช่วงเดียวกันของปี 60
“ประเทศไทยมีความได้เปรียบหลายด้าน โดยเฉพาะ 4 ด้านหลัก คือทางภูมิศาสตร์ ความสะดวกของรูปแบบการค้าชายแดน คุณภาพสินค้าไทยเป็นที่นิยมอย่างสูง และรัฐบาลเองก็พยายามที่จะเพิ่มการอำนวยความสะดวก เช่น เพิ่มด่านการค้า ทำโครงการท่าเรือ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังมีอุปสรรคอยู่อีกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านกฎระเบียบ ข้อตกลงทางการค้าต่าง ๆ หากรัฐบาลเร่งบูรณาการการทำงานให้เชื่อมโยงกัน กำหนดแผนการ แนวทางที่ชัดเจน ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงอาเซียนต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อว่า การค้าชายแดนไทยจะเติบโตได้กว่า 10% แน่นอน”ดร.กมลินทร์ กล่าวว่า