การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ภาคอีสาน เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ลงท้องถิ่นในชุมชน พร้อมวางแผนทิศทางส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ เปลี่ยนกิจกรรมธรรมดาให้เป็นเรื่องเล่นแสนสนุกแถมได้ความรู้กลับไป กระจายการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรองและเข้าสู่ชุมชนอย่างแท้จริง
ล่าสุด นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทริปนำคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลาง สำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) จำนวน 3 วัน 2 คืน (อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ) ระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2562ที่ผ่านมา
จุดแรกแวะเยี่ยมชม สวนมะม่วงน้ำดอกไม้(พันธุ์สีทอง) ที่สวนภู-เพ็ญ บ้านหนองแวงพัฒนา ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ของคุณภูชิต อุ่นเที่ยว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนรักมะม่วง จ.อุดรธานี ที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่าง คือ สามารถผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้(พันธุ์สีทอง) ออกจำหน่ายนอกฤดุกาลและส่งออกต่างประเทศ ที่ช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรชาวสวนมะม่วงมีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมเรียนรู้กระบวนการบริหารจัดการสวนมะม่วงและกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชิมผลิตภัณฑ์การแปรรูปที่ได้จากมะม่วง ของนายภูชิตและภรรยา ชื่อ ร้านแพรวา Mango.me อยู่ในพื้นที่สวนมะม่วงภู-เพ็ญ ที่มีทั้ง ไอศกรีมมะม่วง บิงซูมะม่วงแสนอร่อย น้ำมะม่วงปั่นที่ได้เนื้อมะม่วงสดๆ หรือเนื้อมะม่วงแช่แข็ง ที่ให้รสชาติหวาน หอม อร่อย อากาศร้อนๆได้ทานแล้วชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก พร้อมได้ชมหรือสัมผัสวิถีชีวิตของชาวสวนในชุมชนจริงๆ
นายภูชิต ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯได้ลงพื้นที่พร้อมภรรยาพาชมสวนมะม่วงและเล่าให้ฟังว่า ที่สวนมะม่วงในต.กุดหมากไฟ มีพื้นที่ปลูกมะม่วงประมาณ 6พันไร่ มีมูลค่าส่งออกรวมกว่า100 ล้านบาทต่อปึ เฉพาะต.กุดหมากไฟ มีมูลค่าประมาณ1-2ล้านบาท นอกจากการส่งออกตลาดต่างประเทศแล้ว ทางกลุ่มฯยังเป็นศูนย์การเรียนรูัให้นักท่องเที่ยวและเกษตรกรทั่วไปสามารถเข้ามาศึกษาการปลูกมะม่วง พร้อมชมและชิม ผลิตภัณฑ์น้ำมะม่วงปั่นสด ข้าวเหนียวมะม่วง มะม่วงสุกที่หอมหวาน ที่ร้านแพรวา เป็นของฝากถูกใจทั้งผู้ให้ผู้รับ
มะม่วงพันธุ์ดอกไม้สีทอง ที่เรานำส่งออกต่างประเทศในอ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ตลาดต้องการและนิยมทานมากที่สุด เพราะมีลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์คือ ให้ผลโต เปลือกหนา และผิวเหลืองสวย เอกลักษณ์ของเขาอีกอย่างคือ ให้ผลสีเหลืองนวลขณะที่ยังไม่สุก ที่มาชมคือรุ่นที่ 2 เราจะเก็บในเดือนมีนาคม –เมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นมะม่วงในฤดู
ตั้งแต่ออกดอกจนเก็บผลผลิตใช้เวลาประมาณ 90 วัน มะม่วงจะแก่พร้อมส่งออกต่างประเทศเลย ขนาดที่เราส่งออกคือ 250 กรัมขึ้นไป จนถึง 600 กรัมหรือประมาณ 3 ลูก 1 กิโลกรัม ราคาอยู่ในช่วงฤดูกาลที่รับซื้อ ถ้าเป็นนอกฤดูราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าเป็นในฤดูราคาจะตกต่ำลงมาขึ้นอยู่กับกลไกตลาด ราคาในช่วงนอกฤดูแบบนี้ประมาณ 65 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ถ้าใครอยากมาทานก็สามารถสั่งมาได้หรือจะเดินทางมาเที่ยวชมและทานที่สวนเลยก็ได้เช่นกัน มีร้านมะม่วงไว้ค่อยให้บริการไว้ ติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์โทร. 088-3089366 ปีนี้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 8,000 ตัน และมีสมาชิกอยู่ประมาณ 136 ครัวเรือน นี่คือความสำเร็จในการปลูกมะม่วงนอกฤดูกาลของชาวสวนมะม่วง ต.กุดหมากไฟ
จากนั้นเดินทางต่อไปที่พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เพื่อชมประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการก่อตั้งเมืองอุดรธานี ที่ จัดแสดงไว้อย่างน่าสนใจ แบ่งเป็นห้องๆ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โบราณคดี ธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงประวัติและพระเกียรติคุณของพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี และจ.อุดรธานีได้มอบให้เทศบาลนครอุดรธานีเป็นผู้ดูแล
ด้วยระบบแสง สี เสียงทันสมัย(พิพิธภัณฑ์มีชีวิต) ตั้งอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี บนถนนอธิบดี ตำบลหมากแข้ง ซึ่งจะเปิดให้ชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.ไม่เก็บค่าเข้าชม แต่หากผู้เข้าชมจะบริจาค ก็มีกล่องรับบริจาคตั้งอยู่ตรงจุดลงทะเบียนเข้าชม เพียงแค่เซ้นชื่อตรงจุดลงทะเบียนก็สามารถเข้าชมได้ ด้วยบรรยากาศสุคชิค แอร์เย็นสบาย แถมได้ความรู้ติดตัวกลับไปด้วย
ต่อด้วยทริปสุดเก๋!! เป็นสิริมงคลด้วยการพาไปกราบสักการะขอพรหลวงพ่อพระใส ที่วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย ซึ่งเป็น(พระอารามหลวง) วัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวจ.หนองคาย เรียกว่า ศักดิ์สิทธิ์มาก ภายในโบสถ์มีภาพจิตกรรมฝาผนังที่สวยงามตามพุทธชาดก และประติมากรรมบานหน้าต่าง และบานประตูไม้แกะสลักพระพุทธรูปและป่าหิมพานต์
ช่วงเที่ยงก็พาไปทานอาหาร บ้านต้นจาน ฟาร์มสเตย์ (Farmstay) ท่ามกลางนาข้าว และไร่มะนาว เป็นทั้งร้านกาแฟและร้านอาหารบรรยากาศ สไตล์สุดชิคๆ ชิลๆ ตั้งอยู่ หมู่ 4 บ้านปากสวย ซ.วัดกุดลัค ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พร้อมดื่มกาแฟในบรรยากาศแนวเกษตร หรือจะถ่ายภาพเซลฟีก็ได้ทางร้านก็มีสถานที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพชิลๆ เรียกว่า ใครมาอ.โพนพิสัยไม่ควรพลาดเด็ดขาด!!
ทริปเรายังไม่จบ ผอ.ภูมิภาค ภาคตะวันอออกเฉียงเหนือ นายสมชาย ชมภูน้อย ยังนำคณะสื่อมวลชน เดินทางต่อไปยังจ.บึงกาฬ ที่พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ตั้งอยู่ใน อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมการแถลงแผนการตลาดเรื่องของการท่องเที่ยว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส2 ปีงบประมาณ 2562 พร้อมรับประทานอาหารพื้นบ้าน และชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นจากเด็กๆในชุมชน มีการร่วมนั่งรถเพื่อร่วมสนุกในการหาจุดเช็คอิน 22 จุด ถนนศิลปะ(Street Art) ในหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ที่เล่าเรื่องราวของ พญานาคผ่านภาพวาดตามฝาบ้านที่เป็นจุดให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกเช็คอินกันเพลิดเพลินได้เรียนรู้วิถีในชุมชนของ หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ด้วย
สุดท้ายเดินทางต่อไปยัง วัดผาตากเสื้อ เพื่อชมวิวและบรรยากาศแม่น้ำโขงที่เห็น2 ฝั่ง ไทย-ลาว ที่เมืองสังคม และแนวเทือกเขาของเมืองลาวอย่างงดงาม ณ จุดบริเวณสกายวอล์ค วัดผาตากเสื้อ Unseen Thailand ครั้งหนึ่งต้องมา
รับประทานอาหารติดริมฝั่งโขง ที่ร้านสังคมริเวอร์วิว จ.หนองคาย และเดินทางแวะชิมกาแฟในคาเฟ่น่ารักๆ ชิคๆสไตล์บ้านไม้ที่แสนอบอุ่น เป็นเหมือนสถานที่เก็บสะสมงานไม้ฝีมือนักออกแบบงานไม้ต่าง ที่ “ร้านไม้บ้าน” จ.อุดรธานี
เป็นการจบทริปแบบสวยงาม!!!
นงนวล รัตนประทีป รายงาน
