คิม ไทยแลนด์ บุกอนุเสาวรีย์สามกษัตริย์ -ศาลากลางจังหวัด – ห้างยักษ์ใหญ่ของ จ.เชียงใหม่พร้อมทั้งรณรงค์หยุดเผาป่า

290

ก่อนพบ รอง ผวจ.เชียงใหม่ ขอบคุณและให้กำลังใจที่มาช่วยรณรงค์ให้ชาวบ้าน-ชาวเขา…
“อ้ายๆ หยุดเผาป่าเตอะ …เพื่อฮูกหลานเฮาจะได้มีอากาศสะอาดสดใสหายใจ๋กัน …จะได้เติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีกันเน้อ”

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บริเวณอนุเสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอุเทน เหลืองแสงทอง หรือ คิม จอง อึล(ไทยแลนด์) หนุ่มนักธุรกิจด้านสื่อโฆษณาของ จว.สมุทรปราการ ที่คนไทยรู้จักในมาดผู้นำประเทศสูงสุดเกาหลีเหนือ คิม จอง อึล ได้เดินทางไปบริเวณดังกล่าวโดยสวมใส่หน้ากากอนามัยและถือเครื่องฟอกอากาศไปด้วย เพื่อทำการรณรงค์ให้พี่น้องชาวเชียงใหม่และจังหวัดทางภาคเหนือ ตลอดจนบรรดาชาวเขาและเกษตรกรณ์ช่วยกันงดการแผ้วถางและจุดไฟเผาป่า รวมทั้งผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตรหลังเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เพื่อเตรียมพื้นดินไว้สำหรับเพาะปลูกในฤดูฝนที่จะมาถึง ตลอดจนชาวบ้านที่ลักลอบเผาป่าเพื่อต้องการเก็บของป่า ไม่ว่าจะเป็นเห็ดเผาะ ผักหวานป่า ที่จะแตกช่อออกดอกและเติบโตเมื่อฝนแรกตกลงมา ซึ่งผลิตผลจากป่าเหล่านี้เป็นที่นิยมบริโภคของชาวเมือง เก็บมาขายได้ราคาที่น่าพอใจ

โดยนายอุเทน-คิม ไทยแลนด์ ได้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีพี่น้องชาวไทยและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจสอบถามวัตถุประสงค์ในการแสดงออกของเขาพร้อมทั้งขอบคุณ ให้กำลังใจที่เสียสละแรงการแรงใจในการออกมาช่วยสังคมของเขาก่อนจะขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันด้วย

จากนั้นได้ไปรณรงค์ต่อที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง เทศบาลนครเชียงใหม่
ระหว่างที่กล่าวฝากเตือนในเรื่องเผาป่าที่ภาครัฐกำลังเร่งประชาสัมพันธ์ให้เลิกเผาป่าแล้ว ยังมีโอกาสพบนายคมสัน สุวรรณอัมพร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผ่านมาพอดี ก่อนสอบถามพูดคุยและขอบคุณแทนพี่น้องชาวเชียงใหม่ที่นอกจากจะเอาเครื่องฟอกอากาศ ไปช่วยแจกตามโรงพยาบาลในพื้นที่เชียงใหม่แล้วยังมีจิตอาสาออกมารณรงค์ให้งดและเลิกกิจกรรมทุกชนิดที่จะสร้างหมอกควันฝุ่นมลพิษที่มีขนาดเล็ก PM 2.5 อันเป็นสาเหตุให้เด็กและผู้สูงอายุเป็นโรคทางเดินอากาศและภูมิแพ้ต้องเข้ารับการรักษาร่างกายเต็มแทบทุกโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ในเวลานี้

นอกนี้นายอุเทน – คิมไทยแลนด์ ยังใช้เวลาในช่วงบ่ายก่อนเดินกลับ กทม. แวะไปรณรงค์ให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยงต่างชาติภายในห้างเซ็นทรัล เฟซติวัล เชียงใหม่
ที่พบว่ามีคนให้ความตื่นตัวให้สนใจและพยายามหาวิธีป้องกัน ขนาดคุณแม่บางรายถึงกับพกพาอุปกรณ์เครื่องตรวจวัดค่าระดับฝุ่น PM2.5 ติดตัวออกไปทุกที่ เพื่อจะได้รู้ว่าสถานที่ที่พาลูกเล็กไปนั้นมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใดในเรื่องของฝุ่นขนาดจิ๋ว PM 2.5

“ช่วยสองสัปดาห์ก่อนอย่าว่าแต่ภายนอกอาคารบ้านเรือนเลย แม้แต่ในห้างฯ และในบ้านเราเองพบว่าค่า PM 2.5 ก็สูงถึง 80 กว่า น่าสงสารเด็กๆ เพราะหน้ากากป้องกัน N 95 ขนาดของเด็กหายาก ส่วนมากจะเป็นขนาดผู้ใหญ่ใช้ซึ่งก็มีราคาค่อนข้างสูง ยิ่งเด็กทารกและเด็กเล็กๆ แล้วยากที่จะป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ มีน้องๆ แถวบ้านบางคนถึงขนาดเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตกเลือดกำเดาไหลก็มี” แม่บ้านรายดังกล่าวบอกเล่าให้ คิม ไทยแลนด์ ฟังพร้อมกับขอบคุณที่เสียสละมาเป็นจิตอาสา รณรงค์ช่วยพี่น้องชาวเชียงใหม่ครั้งนี้ด้วย