เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ณ ห้องประชุมไทยาจารย์ ชั้น 3 อาคาร 2 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการ คุรุสภา เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือ PLC ร่วมกับ คุณหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจ และผลิต จำกัด และนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ มูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย
โดย ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า การสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ รวมพลังของครู และผู้ที่เกี่ยวข้องที่เรียกว่า “ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” เป็นแนวคิดสำคัญที่คุรุสภาใช้ในการส่งเสริมสนับสนุน และพัฒนาให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเกิดการรวมพลังของคนในวิชาชีพเดียวกัน แบ่งปันความคิด ความรู้ ทักษะ ตลอดจนแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อพัฒนาผู้เรียนและวิชาชีพ สำหรับการสร้างความร่วมมือระหว่าง สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ในการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาแบบ PLC ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา สถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพอย่างเป็นระบบ และทั่วถึง แบบ PLC ที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการอย่างแท้จริง และร่วมค้นหาวิธีปฏิบัติที่ดีสำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาแบบ PLC ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือว่าเป็นพันธสัญญาที่ร่วมกันในเรื่องของการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ โดยการยกระดับวิชาชีพทางการศึกษาให้มีสมรรถนะเป็นที่ยอมรับของสังคม และนานาชาติ
ด้านคุณหทัยรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนฯ กล่าวว่า บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมมือกับภาครัฐและสถาบันทางการศึกษาในการร่วมกันยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษาด้วยการกระจายทรัพยากรด้านการศึกษาสู่โรงเรียนที่ต้องการ การพัฒนาครูเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอนให้เท่าทันต่อโลกาภิวัฒน์ต้องอาศัยความร่วมมือของภาคีหลายภาคส่วน การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อนักการศึกษาไทยโดยเฉพาะครูผู้ปฏิบัติสามารถสร้างองค์ความรู้และความชำนาญในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง และการร่วมมือกับนักวิชาการด้านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในการร่วมถอดบทเรียนด้านการสอนที่เป็นแนวปฏิบัติที่ดีและนำมาสู่งานวิจัยที่สามารถต่อยอดในการจัดการเรียนการสอนได้
ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของการสร้างองค์ความรู้ด้านการศึกษาของประเทศ และเชฟรอนมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่โครงการฯ ได้รับโอกาสในการร่วมมือกับคุรุสภาในการร่วมเสาะหา ให้ทุนสนับสนุนเพื่อร่วมพัฒนาแนวปฏิบัติที่ดีจากเครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้ครูและบุคลการทางการศึกษาที่มีวัฒนธรรมของการทำงานร่วมกัน พัฒนาทักษะทางวิชาชีพครูและผู้บริหารอย่างต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ เฉกช่นเดียวกับภาคเอกชนที่มีกระบวนการพัฒนาบุคลากรและองค์กรอย่างต่อเนื่อง ที่ใช้ชื่อว่า Community of Practices
ด้านนายปิยะบุตร ประธานอำนวยการมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างและต่อยอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาประเทศ การออกแบบโครงการฯ จึงได้นำหลักสูตรทางด้านวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาโดย สถาบัน Smithsonian สหรัฐอเมริกา และหลักสูตรด้านคณิตศาสตร์ของสำนักพิมพ์ Tokyo Shoseki ประเทศญี่ปุ่นซึ่งที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติการพัฒนาครูอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งการจัดอุปกรณ์การเรียนรู้ มาช่วยเสริมให้ครูได้นำไปปรับใช้ จนในขณะนี้ โครงการฯ ให้การสนับสนุนด้านวิชาการแก่โรงเรียนกว่า 650 โรงเรียนทั่วประเทศ และสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู (Professional Learning Communities – PLC) มากกว่า 100 เครือข่ายตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างนักการศึกษากันว่าการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพในบริบทที่นักเรียนมีความพร้อมแตกต่างกันควรเป็นอย่างไร ก่อให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมที่สถานศึกษามุ่งจัดการศึกษาที่คาดหวังความก้าวหน้าในการเรียนรู้ที่วัดผลได้ของนักเรียนเป็นสำคัญการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างเครือข่ายมหาวิทยาลัยและโรงเรียนของคุรุสภาและโครงการฯ จะช่วยทำให้การพัฒนาต้นแบบ PLC มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ทำให้เกิดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน เป็นแบบอย่างให้กับครูทั่วประเทศ และพัฒนาสู่งานวิจัยได้ต่อไป