เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 นายแพทย์ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสปสช. ดร.บรรจง จำปา. ผอ.สำนักบริหารทั่วไป นายแพทย์กวี วีระเศรษฐกุล ผอ.สปสช.เขต8อุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ติดตามเพื่อรับฟังข้อมูล การรักษาสุขภาพของผู้ต้องขัง(กลุ่มเปราะบาง)ในเรือนจำจังหวัดสกลนครโดยมี นายวันชัย สุวรรณภูมิ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.สกลนคร และนพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ รองนพ.สสจ.สกลนคร นำเสนอแนวทางการดูแลกลุ่มเปราะบางในเรือนจำ
ทั้งนี้ นายวันชัย กล่าวว่า การดูแลสุขภาพผู้ต้องขังและการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพสถานพยาบาลเรือนจำจังหวัดสกลนครนั้น ได้ผ่านการประเมินเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2561 และครั้งนี้ ได้เชิญ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสปสช. เปิดหน่วยบริการปฐมภูมิ(เบื้องต้น) สถานพยาบาลเรือนจำ จ.สกลนคร เครือข่ายหน่วยบริการ รพ.ศูนย์สกลนคร เทียบเท่า รพ.สต.
โดยอาคารสถานพยาบาลใหม่นั้น ได้รับงบจากงบประมาณกรมราชทัณฑ์ มีการให้การรักษาพยาบาลผู้ต้องขังในเรือนจำเช่นเดียวกับประชาชนภายนอกเรือนจำ ซึ่งถ้ามีการเจ็บป่วยเล็กน้อยจะรักษาภายในสถานพยาบาลรือนจำโดยเจ้าหน้าที่พยาบาลของเรือนจำ และมีทีมแพทย์ พยาบาลทันตแพทย์ และสหวิชาชีพจากโรงพยาบาลสกลนครและศูนย์สุขภาพชุมชนสุขเกษม ถ้าเจ็บป่วยมากกว่าที่หน่วยบริการปฐมภูมิจะรักษาได้ รวมทั้งการเจ็บป่วย)ฉุกเฉิน หรือเกินศักยภาพที่จะรักษาในเรือนจำก็จะถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลสกลนคร
ในขณะที่ นพ.ศักดิ์ชัย ให้สัมภาษณ์หลังรับฟังข้อมูลและเดินตรวจเยี่ยมอาคารสถานพยาบาลในเรือนจำ จ.สกลนครว่า การรักษาพยาบาลทางเรือนจำได้รับงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวจากสปสช.โอน งบประมาณให้กับโรงพยาบาลสกลนครซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เรือนจำ โดยงบประมาณครอบคลุมทั้ง การรักษาพยาบาล การสร้างสริมสุขภาพป้องกันโรค โรคเรื้อรัง โรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ค่ายาและการดูแลเรื่องสุขภาพอื่นๆเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงด้านการรักษาพยาบาลศูนย์สุขภาพชุมชนสุขเกษม ซึ่งเป็น 1 ในเครือข่ายของโรงพยาบาลสกลนคร จะจัดแพทย์พยาบาลทันตแพทย์เข้ามาให้การตรวจรักษาในเรือนจำ เดือนละ1ครั้ง ทีมจิตแพทย์ เข้าทุก 2 เดือน การเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ โดยโรงพยาบาลสกลนครสนับสนุน ยาและเวชภัณฑ์ ที่ไช้ในเรือนจำ การเข้าถึงด้านการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค ทางสปสช.ได้จัดสรรวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังที่เป็น กลุ่มเป้าหมายทุกปี
นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อคัดกรองวัณโรคซึ่งเป็นโรคติดต่อในเรือนจำ อย่างไรก็ตามสปสช. เขต 8อุดรธานี ยังจัดสรรงบประมาณสร้างสริมสุขภาพป้องกันโรคระดับเขต ให้กับเรือนจำจังหวัดสกลนครโดยตรง เพิ่มเติม ทำให้เรือนจำได้เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพอื่นๆได้มากขึ้นเช่นการให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพต่างๆ การฝากครรภ์และการดูแลเด็กที่ติดมากับแม่ การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมบริการทันตกรรม การคัดกรองสายตา การป้องกันเอดส์.
“จุดเด่นของที่นี่ผู้บริหารให้ความสำคัญกับงานด้านสุขภาพใส่ใจคุณภาพชีวิตของคนทำงานและให้ความร่วมมือจากเครือข่ายหน่วยงานภายนอกเข้า มาดูแลสุขภาพผู้ต้องขังภายในเรือนจำ. รวมทั้งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากเทศบาลเมืองสกลนคร ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น/พื้นที่ “นายวันชัยกล่าว ด้านนพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า นโยบายรัฐบาล ให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่เรือนจำสกลนครมีการจัดระบบให้ผู้ต้องขังเข้าถึงการดูแลสุขภาพ
“ทุกแห่งเดินตามนโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่สปสช.ไป mou การดูแลสุขภาพผู้ต้องขัง มีแนวคิด ส่งเสริมป้องกัน คัดกรอง และคุ้มครองผู้ต้องขัง และพยายามสร้างสิทธิประโยชน์ให้เหมือนกับประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ รวมถึงครอบคลุมการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ต้องขังที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ตามมาตร41 ตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งที่นี่มีทีมงานที่เข้มแข็ง มีทีมดูแลสุขภาพผู้ต้องขัง และได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข และ ความร่วมมือของเครือข่ายครบถ้วนในการจัดระบบให้การดูแลของกลุ่มเปราะบาง ส่งผลให้คุณภาพชีวิต ของผู้ต้องขังเรือนจำได้รับการดูแลอย่างมีระบบ”นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามในเรือนจำจังหวัดสกลนครปัจจุบันมีผู้ต้องขังแบ่งเป็นชาย จำนวน 1,455 คน และหญิง จำนวน 397 คน ส่วนใหญ่ต้องโทษยาเสพติดถึงร้อยละ80 ทั้งชายและหญิง และมีผู้สูงอายุในเรือนจำสกลนครแห่งนี้เพียง ร้อยละ5 ของผู้ต้องขังทั้งหมดด้วย