สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ร่วมกับ สมาคมนักธุรกิจยุคใหม่ไทย-จีน จัดงานสัมมนา 44 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน : โลกผันแปรแต่มิตรภาพยั่งยืน ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมีนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าวรายงานว่า จีน-ไทยสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการมาเป็นระยะเวลาเพียง 44 ปี แต่มิตรภาพอันดีงามและการไปมาหาสู่กันของประชาชนทั้งสองประเทศนั้นสามารถย้อนกลับไปถึงสมัยฮั่นตะวันตกเมื่อ 2000 ปีก่อน “เรื่องราวที่มีความเป็นมายาวนาน”นั้น คือจุดเด่นที่สำคัญอย่างยิ่งของมิตรภาพจีน-ไทยและความสัมพันธ์จีน-ไทย โดยการสัมมนาครั้งนี้มี นางหยาง หยาง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัคราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง“มองอนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน และความคาดหวังต่อบทบาทของสื่อจีนและไทย”
โดยนางหยาง หยาง กล่าวว่า “จีน-ไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ซึ่งพูดได้ว่าเรามีความแน่นแฟ้นกันในทุกๆ ด้าน ทั้งการเมือง การค้า เศรษฐกิจ จีน-ไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางการเมืองไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศไปมาหาสู่และรักษาการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตมาเป็นเวลา 44 ปี ภายใต้การนำและเอาใจใส่ของผู้นำทุกสมัยของสองประเทศ ทำให้ประชาชนจีน-ไทยและเฝ้าสังเกตการณ์และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เชื่อมโยงถึงกันและกัน ร่วมก้าวข้ามความยากลำบากของการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ระหว่างประเทศ
ทุกวันนี้ ผู้นำจีนและไทยยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิดเหมือนเครือญาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศจีน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีนมากถึง 46 ครั้ง ทรงเป็นพระสหายต่างประเทศของประชาชนจีนที่รู้กันโดยทั่ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้พบปะกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยหลายต่อหลายครั้ง
จีน-ไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดด้านความร่วมมืออย่างลึกซึ้ง ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ อย่างมาก ไม่กี่ปีมานี้ ด้วยการปูพื้นฐานที่ครอบคลุมของ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่จีน-ไทยสร้างสรรค์ร่วมกัน การดำเนินความร่วมมือให้บรรลุผลของทั้งสองประเทศปรากฏสภาพการณ์ที่น่ายินดี จีนเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยติดต่อกันเป็นเวลา 6 ปีแล้ว ไทยก็เป็นคู่ค้าอันดับที่สามในอาเซียนของจีน
จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนไทยหรือบีโอไอ พบว่า มูลค่าคำขอการลงทุนโดยตรงของจีนในไทยของปีที่แล้วมีมูลค่าประมาณ 55,480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2 เท่าจากปี 2017 เติบโตอย่างรวดเร็ว จีนได้กลายเป็นแหล่งที่มาของการลงทุนที่ใหญ่เป็นอันดับสามของไทย ในขณะเดียวกัน สินค้าไทยกำลังเข้าสู่ตลาดจีนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะข้าว ยางพารา ทุเรียนและรังนกเป็นต้น ตามโครงการรถไฟจีน-ไทยดำเนินกันต่อไปและจีน-ไทยทั้งสองประเทศมีความร่วมมือใน EEC มากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมซึ่งมีคุณภาพสูงในทางด้านโลจิสติก พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตระดับสูง การอบรมบุคลกรเป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในช่วงเวทีอภิปราย “บทบาทสื่อในการการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน” ได้รับเกียรติจาก นางสุมลพันธ์ โกศลสิริเศรษฐ์รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นายก้าวโรจน์ สุตาภัคดี นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ดำเนินรายการโดย นายภูวนารถ ณ สงขลา อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และ เวทีอภิปราย “เศรษฐกิจไทย-จีน 44 ปี แห่งการเติบโต” ได้รับเกียรติจาก นายจักรินทร์ โกมลศิริ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายประเสริฐศักดิ์ องค์วัฒนกุล ที่ปรึกษาอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ พลตรี ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน ดำเนินรายการโดย นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน