จังหวัดอุบลฯ จัดงานท่องเที่ยวสานสายใย ไทย-ลาวสองแผ่นดิน กินของแซบเมืองอุบลฯ ด้วยการนำคณะผู้ประกอบการลาวท่องเที่ยวเมืองไทย

262

กิจกรรมที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี และคณะผู้แทนส่วนราชการและภาคธุรกิจเอกชน จากแขวงจำปาสักและแขวงสาละวัน สปป.ลาว จัดงาน “ท่องเที่ยวสานสายใย ไทย-ลาวสองแผ่นดิน กินของแซ่บเมืองอุบลราชธานี” เมื่อวันที่ 15-17 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ใน 4 อำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี ,อำเภอโขงเจียม,อำเภอสิรินธร และอำเภอโพธิ์ไทร ที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามที่จบลงด้วยมิตรภาพที่ดีม้วนชื่นกันทั่วหน้า

 

โดยวันแรกของการเดินทางในช่วงเช้า 15 ตุลาคม 2562 ดร.ปะนะชัย  คำสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับบุคคลากรวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และสื่อมวลชนจากส่วนกลาง อาทิ ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว สมาคมสื่อมวลชนเพื่อการท่องเที่ยว มัคคุเทศก์อิสระ ผู้ประกอบการจากสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย สื่อมวลชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น ณ บริเวณศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ร่วมสักการะศาลหลักเมืองเพื่อเป็นสิริมงคล และนำชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี สำนักศิลปากรที่ 11  กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม

 

 

พิธิภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี อยู่ใกล้ๆกับศาลหลักเมือง อ.เมืองอุบลราชานี เดิมเป็นอาคารศาลากลางจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2461 บนที่ดินพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ที่ขอจากทายาทของราชบุตร(สุ่ย)เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์ สำหรับก่อสร้างสถานที่ราชการตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 6

 

ภายในมีพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะลาว,กลองมโหระทึก สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สังคมเกษตรกรรม ประวัติความเป็นมาของอุบลราชธานีที่เป็นมัลติมีเดีย ศิลาจารึกปากแม่น้ำมูล

รองผู้ว่าฯอุบล กับ 2รองเจ้าแขวงจำปาสักและสาละวัน

จากนั้นไปรับคณะ สปป.ลาวจำนวน 52 คน จากแขวงสาละวันและแขวงจำปาสัก ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และเข้าร่วมกิจกรรมพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ณ โรงแรมทอแสง โขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี โดย นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน ดร.ปะนะชัย คำสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ท่านบัวลิน วงพะจัน รองเจ้าแขวงจำปาสัก และท่านพูธง คำมะนีวง รองเจ้าแขวงสาละวัน ตัวแทนผู้บริหารจาก สปป.ลาว กล่าวถึงความร่วมมือต่างๆ ระหว่าง 2 ประเทศ และร่วมเปิดงานโดยถือธงชาติของสองประเทศวางลงบนแท่นพิธีพร้อมกันถือว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-ลาว จากนั้นร่วมเสวนาหัวข้อ ” ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าชายแดน ไทย-ลาว”  มีผู้ร่วมเสวนา 5 ท่าน จากตัวแทนไทยและลาว โดยพิธีกรชาย อรรณนพ กิตติกุล และ พิธีกรหญิงชาวลาวชื่อดัง นุนี กุมพลภักดี เป็นผู้ร่วมดำเนินรายการ

สำหรับในช่วงเย็นถึงค่ำ ก่อนเข้าสู่งานเลี้ยงต้อนรับ คณะฯเดินทางไปยังวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ต.ช่องเม็ก  อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อชมความสวยงามของวัดเรืองแสงซึ่งเป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวของจังหวัดอุบลราชธานี ที่นักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัสและชื่นชมธรรมชาติของ สองฝั่ง และเข้าที่พักเตรียมเข้าสู่งานเลี้ยงต้อนรับ “สานสายใยไทย-ลาว สองแผ่นดิน” โดยมีนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับ และตัวแทนจาก สปป.ลาว ขึ้นกล่าวต้อนรับเป็นเกียรติในการร่วมโครงการครั้งนี้ จากนั้นร่วมดื่มด่ำสนุกสนานในงานเลี้ยงรับรองกับศิลปินชื่อดัง อาทิ อ๋อมแอ๋ม -​ละมัย แสงทอง และ บัวผัน ทังโส ณ โรงแรมทอแสง โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

 

ผู้ว่าราชการจ.อุบลฯ

วันที่สองของกิจกรรม (วันที่ 16 ตุลาคม 2562) นำคณะเดินทางสู่สามพันโบก อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่ง เพราะเป็นสถานท่มีแก่งหินหรือเรียกอีกชื่อว่า “กุมภลักษณ์”ที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง ในอ.โพธิ์ไทร ที่เกิดจากแรงน้ำวงกัดเซษะกลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง และจะปรากฎให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวจะโผล่พ้นำน้ำคล้ายภูเขากลางลำน้ำโขง จนชาวบ้านเรียกว่า “แกรนแคนยอนน้ำโขง

พร้อม เยี่ยมชมและซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน กินข้าวป่า ชมสวนลำใย “สวนเขียวสด ณ สามพันโบก” และเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อชมความงามทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นพ้นที่ครอบคลุมอ.โขงเจียมและอ.สิรินธร สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบและเนินเขาเตี้ยๆ โดยมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาว อีกทั้งยังมีสะพานแขวนยาวที่สุดในอีสานด้วยเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ก่อนจะเดินทางกลับที่พักเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยง “สานสายใย ไทย-ลาว สองแผ่นดิน กินของแซ่บเมืองอุบลราชธานี” สนุกสนานกับมินิคอนเสิร์ต ศิลปิน ก้อง ห้วยไร่ และพิธีกรชื่อดัง “กำภู รัชนี โมเดิร์นไนน์ทีวี” โดยนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงแนวคิดของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้  “สานสายใย ไทย-ลาว สองแผ่นดิน กินของแซ่บเมืองอุบลราชธานี”  เที่ยวอุบล ต้องได้ 3 อย่าง อิ่มบุญ อิ่มใจ และอิ่มท้อง

และในวันท้ายสุด (วันที่ 17 ตุลาคม 2562) นำคณะเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพื่อชมแสงแรกแห่งวันที่สวยงามบนจุดแลนด์มาร์คท่องเที่ยวอีกแห่งหนี่งของจังหวัดอุบลราขธานี และเดินทางไปเยี่ยมชมและซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน บ้านบากชุม อ.สิรินธร “กินข้าว ชมเขื่อน” ชมความงามของเขื่อนสิรินธร ก่อนเดินไปยังด่านศุลกากรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ร่วมพิธีส่งแขกรับเชิญ สปป.ลาว กลับประเทศ และบุคลากรวงการอุตสากรรมท่องเที่ยวส่วนกลาง โดยสวัสดิภาพและประทับใจ

ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จ.อุบลราชธานี มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านด้านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) จำนวน 8 อำเภอระยะทาง 361 กิโลเมตร(ทางบก 175 ก.ม. ทางน้ำ 186 ก.ม. มีช่องทางการค้า 2 จุด คือ ด่านพรมแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร โดยเป็น เส้นทางเชื่อมต่อทางบก และ ด่านพรมแดนปากแซง กิ่งอำเภอนาตาล โดยเป็นเส้นทางเชื่อมต่อทางน้ำช้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว

นอกจากนี้ยังมีจุดผ่อนปรนทางการค้า อีก 4 จุด ประกอบด้วย จุดหน้าที่ว่างการอำเภอเขมราฐ และจุดบ้านสองคอนอำเภอโพธิ์ไทร จุดบ้านด่านเก่าอำเภอโขงเจียม จุดช่องตาอู อำเภอบุณฑริก ชาวอุบลฯมีความสัมพันธ์อันดีกับชาวลาวในแขวงจำปาสัก และแขวงสาละวัน โดยเฉพาะด้านการมีพระพุทธศาสนาเป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจ ในสถานที่ทางศาสนาสำคัญบางแห่ง จะสามารถพบสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ที่มีการผสนผสานกับศิลปะแบบเวียงจันทร์ด้วย

ด้านการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียน อุบลฯถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบ เนื่องจากอยู่บนเส้นทางอิน
โดจีน โดยรัฐบาลผลักดันเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างอุบลฯ -นครปากเซ-ลาวใต้ ผ่านประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ และถือว่ามีจุดท่องเที่ยวที่หลากหลาย อีกทั้งมีประเพณีที่มีชื่อเสียง “แห่เทียนพรรษาที่เป็นการระดมฝีมือช่างแกะสลักจากทั้งไทยและต่างประเทศ เป็นงานระดับภูมิภาค และยังมีแม่น้ำสองสี ซึ่งเป็นจุดแม่น้ำมูลไหลผ่านแม่น้ำโขง ที่อ.โขงเจียม เป็นต้น

ขณะที่ดร.ปะนะชัย  คำสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า รู้สึกมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะไทยและลาว ที่เดินทางมายังจ.อุบลราชธานีเพื่อเข้าร่วมการจัดงานท่องเที่ยวสานสายใย ไทยลาว สองแผ่นดินฯที่จัดขึ้น เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่สวยงามและมีความโดดเด่นอีกทั้งเพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวไทยและลาวได้รู้จักมากขึ้น

นี่คือกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ไทยลาวด้วยการท่องเที่ยวอีกด้วย

นงนวล รัตนประทีป รายงาน