แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เปิดตัว แกร็บเพย์ วอลเล็ต พร้อมบริการเสริมอื่นๆ อย่างเป็นทางการเพื่อผลักดันอีโคซิสเต็มทางการเงินที่เชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์ไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้กลยุทธ์เพิ่มโอกาสการมีส่วนร่วมทางการเงินของคนในสังคม แกร็บเพย์ วอลเล็ต มอบความคุ้มค่าและสิทธิพิเศษให้กับผู้บริโภคชาวไทย พร้อมช่วยผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสดในไทยอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บเพย์ ประจำประเทศไทย แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป แถลงข่าวเปิดตัว “แกร็บเพย์ วอลเล็ต”บริการใหม่ ว่า แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจด้านการเงินของ แกร็บ ผู้นำด้านซูเปอร์แอปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตอบสนองทุกความต้องการในทุกวันของผู้บริโภค ประกาศขยายอีโคซิสเต็ม แกร็บเพย์ วอลเล็ต ในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของร้านค้าและธุรกิจจำนวนมาก พร้อมทั้งบริการเสริมต่างๆ ผ่าน แกร็บเพย์ วอลเล็ต ทำให้แกร็บเป็นซูเปอร์แอปหนึ่งเดียวในประเทศที่มีแพลตฟอร์มการชำระเงินอย่างครบวงจร ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
การเปิดตัว แกร็บเพย์ วอลเล็ต พาวเวอร์ บาย เคแบงก์ จะช่วยเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลในประเทศไทยได้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน 93% ของการใช้จ่ายภายในประเทศยังเป็นเงินสด ส่วนอัตราเฉลี่ยการถือครองบัตรเครดิตต่อคนก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้มีการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จึงมุ่งสร้างความเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลโดยให้ร้านค้าพึ่งพาเงินสดน้อยลง เพราะยอดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มีมูลค่าถึง 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในแต่ละปี นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังจะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้บริการผ่านแกร็บ ซูเปอร์แอป
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บเพย์ ประจำประเทศไทย แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า “ผู้ใช้งานในประเทศไทยมีการตอบรับกระแส อี-เพย์เมนท์ อย่างรวดเร็วและมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ฐานกลุ่มผู้ใช้งาน แกร็บเพย์ ขยายตัวขึ้นถึง 3 เท่า นับตั้งแต่มีการทดลองบริการ แกร็บเพย์ วอลเล็ตไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ แกร็บเพย์ วอลเล็ต กลายเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในขณะนี้ ปริมาณธุรกรรมบนแกร็บเกินกว่า 40% เป็นการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด ผมจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว แกร็บเพย์ วอลเล็ต ซึ่งเปรียบเสมือนสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้แกร็บ นอกเหนือจากวิธีชำระเงินแบบเดิมภายในแอปแล้ว ล่าสุดผู้ใช้งานยังสามารถใช้ แกร็บเพย์ วอลเล็ต ชำระเงินตามร้านค้าชั้นนำต่างๆ ที่อยู่นอกแพลตฟอร์มของแกร็บได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย นอกจากนี้ เรายังนำเสนอ แกร็บแพ็กเกจ (subscription plan) และส่วนลดในดีลบุ๊กเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์และมีส่วนร่วมในอีโคซิสเต็มผ่านทั้งแอปของแกร็บและร้านค้าออฟไลน์ได้อย่างเต็มที่ เราหวังว่าการเชื่อมธุรกรรมระหว่างโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันจะช่วยให้พาร์ทเนอร์ร้านค้าสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ในการสร้างธุรกิจและรายได้บนอีโคซิสเต็มของเราได้มากขึ้น เพื่อต่อยอดประโยชน์ที่จะได้รับจากเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างมากในขณะนี้”
บริการใหม่ของ แกร็บเพย์ วอลเล็ต:
ชำระเงินกับร้านค้า (In-store Payment): ผู้ใช้แอปสามารถนำ แกร็บเพย์ วอลเล็ต ไปชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าต่างๆ เช่น Major Cineplex, After You, KOI Thé, Boots, Lawson Station 108, Fuji, Miniso, Sukishi, Kyo Roll En, Seoul Grill และ Sukiya โดยสแกน QR code ทั้งนี้ บริการของแกร็บไม่ได้จำกัดอยู่แต่การเรียกรถหรือการสั่งอาหารเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงบริการจากพาร์ทเนอร์ร้านค้าหลายประเภทธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบันเทิง ไลฟ์สไตล์ และอื่นๆ อีกมากมาย
เติมเงินโทรศัพท์มือถือ (Mobile Topup): ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือผ่านทางแอปของแกร็บ ทำให้การเชื่อมต่อในยุคดิจิทัลเป็นไปได้อย่างสะดวก โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรโทรคมนาคมต่างๆ
ดีลบุ๊ก (Dealbook): รวมสินค้า ส่วนลดและสิทธิพิเศษจากพาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บในหลากหลายประเภทธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร บันเทิง และท่องเที่ยว เช่น ผู้ใช้งานสามารถซื้อเซ็ตตั๋วชมภาพยนตร์พร้อมป๊อปคอร์นราคาพิเศษจาก Major Cineplex และชานมไข่มุกจาก KOI Thé ได้ในราคาพิเศษ
แพ็กเกจส่วนลด (Subscription): ผู้ที่ใช้งานแกร็บเป็นประจำสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 50% เมื่อลงทะเบียนเข้าใช้งานกลุ่มบริการต่างๆ ของแกร็บที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกันไป แพ็กเกจยอดนิยม ได้แก่ GrabPackage All-access Pass, GrabPackage Ride Pass, GrabPackage Food Pass and GrabPackage GrabExpress Pass
ในปัจจุบัน ผู้ใช้แกร็บในประเทศไทยสามารถเปิดใช้งานและเติมเงินเข้ากระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ผ่านแอปพลิเคชัน K Plus เมื่อสร้างบัญชีแล้ว ผู้ใช้สามารถใช้ยอดเงินใน แกร็บเพย์ วอลเล็ต เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการภายในอีโคซิสเต็มของแกร็บหรือบริการต่างๆ จากร้านค้าพาร์ทเนอร์ได้ทันที นอกจากนี้ แกร็บมีแผนที่จะขยายการเปิดให้บริการกับผู้ใช้ที่ใช้ธนาคารอื่นภายในต้นปีหน้า
ด้านนายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความต้องการบริการทางการเงินแบบครบวงจรที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา แกร็บเติบโตจากการเป็นแอปพลิเคชันสำหรับเรียกรถ สู่แพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่ให้บริการหลากหลาย ครอบคลุม 20 เมืองใน 18 จังหวัด ล่าสุดเรามียอดเรียกใช้บริการรวมแล้วกว่า 120 ล้านครั้ง ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา การที่ชีวิตประจำวันของคนนับล้านๆ รายนิยมใช้แอปพลิเคชันแกร็บเป็นเพราะในดีเอ็นเอของแกร็บนั้น ความต้องการของผู้บริโภคมาก่อนเสมอ เราเข้าใจดีว่าความยุ่งยากในชีวิตประจำวันอย่างหนึ่งที่ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงคนในประเทศไทย ต้องเผชิญเหมือนๆ กัน ก็คือ การชำระเงิน ดังนั้น ในเฟสแรกนี้ แกร็บได้เชื่อมต่อแทรฟฟิคระหว่างออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันในแกร็บเพย์ วอลเล็ต เพื่อให้ผู้ใช้แกร็บมีส่วนร่วมในอีโคซิสเต็มนี้ได้อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น ด้วยช่องทางการชำระเงินที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมไร้เงินสดอีกด้วย ไม่เพียงแต่ผู้ใช้แกร็บเท่านั้นที่ได้รับความสะดวกสบายและสิทธิประโยชน์มากมาย แต่พาร์ทเนอร์ร้านค้ายังมีโอกาสเพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า และเสริมประสิทธิภาพทางธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำความตั้งใจของ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยมากยิ่งขึ้น”